body { overflow: hidden; }
itemtype='https://schema.org/Blog' itemscope='itemscope' class="post-template-default single single-post postid-389 single-format-standard ast-desktop ast-separate-container ast-right-sidebar astra-4.6.15 ast-blog-single-style-1 ast-single-post ast-inherit-site-logo-transparent ast-hfb-header ast-normal-title-enabled elementor-default elementor-kit-5">

กลยุทธ์ของบาคาร่าตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงขั้นสูง

บทนำสู่บาคาร่า:
บาคาร่าเป็นเกมไพ่ที่เข้าสู่ผู้เล่นและเจ้ามือ เป้าหมายคือการเดาว่าใครจะมีคะแนนรวมใกล้เคียงกับ 9 ไพ่แต่ละใบมีค่าเป็นตัวเลข และไพ่หน้ามีค่า 0 คะแนน ในขณะที่เอซมีค่า 1 คะแนน
ผู้เล่นสามารถเดิมพันในมือของผู้เล่นหรือเจ้ามือ หลังจากวางเดิมพันแล้ว ทั้งผู้เล่นและเจ้ามือจะได้รับไพ่สองใบ และมือที่ใกล้เคียงที่สุดกับ 9 จะชนะ

โอกาสในการชนะที่บาคาร่า:
ตามทฤษฎีแล้ว การโพสต์ “เจ้ามือ” หรือ “ผู้เล่น” มีโอกาสชนะ 50-50 อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นที่มีประสบการณ์จะใช้กลยุทธ์พิเศษเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะและรับประโยชน์สูงสุดจากทุกเทิร์น

กลยุทธ์บาคาร่า:

การเดิมพัน “เจ้ามือ”: มือของเจ้ามือมีข้อได้เปรียบเล็กน้อยเมื่อเทียบกับของผู้เล่น แม้ว่าเจ้ามือจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชัน 5% หากเขาชนะ แม้ว่าการเดิมพันกับเจ้ามืออาจดูน่าสนใจน้อยกว่า แต่ในระยะยาวมันสามารถสร้างผลกำไรที่มั่นคงได้ เนื่องจากอัตราการชนะของเจ้ามือคือ 50.68% ในขณะที่ของผู้เล่นคือ 49.32%

หลีกเลี่ยงการเสมอกัน: หลีกเลี่ยงการเดิมพันเสมอกัน เนื่องจากราคาต่อรองต่ำและมีความเสี่ยงสูง

เพิ่มเงินเดิมพัน: กลยุทธ์นี้ต้องใช้ทุนสูง และประกอบด้วยการเพิ่มเงินเดิมพันหลังจากแพ้ หากใช้อย่างถูกต้องจะสามารถสร้างผลกำไรมหาศาลได้

การเล่นในช่วงเวลาสั้น ๆ: การเล่นในช่วงเวลาสั้น ๆ ประมาณ 10-15 นาที และการเปลี่ยนโต๊ะเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปด้วยดี สามารถเพิ่มโอกาสในการชนะและหลีกเลี่ยงการขาดทุนจำนวนมาก

การรู้อัตราต่อรอง: การรู้อัตราต่อรองและค่าคอมมิชชั่นของเจ้ามือสามารถช่วยคุณคำนวณความเสี่ยงและผลกำไรที่เป็นไปได้ของการเดิมพันแต่ละครั้ง

โดยสรุป บาคาร่าเป็นเกมที่มีโอกาสชนะ 50% ในการเดิมพันขั้นพื้นฐาน ดังนั้นด้วยการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม ผู้เล่นสามารถเพิ่มโอกาสในการชนะและรับประโยชน์สูงสุดจากทุกเซสชันเกม

Scroll to Top